ของต้องห้ามหรือต้องมีใบอนุญาต ในการนำเข้า/ส่งออก ราชอาณาจักรไทย

เผยแพร่เมื่อ Oct 27, 2024 | จำนวน 29 ครั้ง


(กรมศุลกากร, 2561;

https://www.customs.go.th/cont_strc_simple.php?ini_content=business_160426_03_160930_01_160930_01&ini_menu=menu_goods_control_permit⟪=th&left_menu=menu_goods_control_permit

 

1.ของต้องห้าม หมายถึงของที่มีกฎหมายกำหนดห้ามนำเข้ามาหรือส่งออกไปนอกราชอาณาจักรโดยเด็ดขาด และในบางกรณีห้ามการส่งผ่านด้วย ผู้ใดนำสินค้าต้องห้ามเข้ามาหรือส่งออกไปนอกราชอาณาจักรจะมีความผิดต้องรับโทษตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องและเป็นความผิดตามมาตรา 244 และ มาตรา 246 แห่งพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2560 ด้วย ตัวอย่างสินค้าต้องห้ามในการนำเข้า-ส่งออก มีดังนี้:

1. วัตถุลามก การนำเข้าและส่งออกวัตถุลามก ไม่ว่าจะอยู่ในรูปแบบหนังสือ ภาพเขียน ภาพพิมพ์ ภาพระบายสี สิ่งที่พิมพ์ขึ้น รูปภาพ ภาพโฆษณา เครื่องหมาย รูปถ่าย และภาพยนตร์ลามกหรือวัตถุลามกอื่น ๆ
2. สินค้าที่มีตราหรือลวดลายเป็นรูปธงชาติ
3. ยาเสพติดให้โทษ
4. เงินตรา พันธบัตร ใบสำคัญรับดอกเบี้ยพันธบัตรอันเป็นของปลอมหรือแปลง เหรียญกษาปณ์ที่ทำให้น้ำหนักลดลงโดยทุจริต ดวงตราแผ่นดิน รอยตราแผ่นดินหรือพระปรมาภิไธย ดวงตราหรือรอยตราของทางราชการอันเป็นของปลอม
5. สินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ เช่น แถบบันทึกเสียง (เทปเพลง) แผ่นบันทึกเสียง (คอมแพคดิสก์) แถบบันทึกภาพ (วีดีโอเทป) โปรแกรม คอมพิวเตอร์ หนังสือ หรือสินค้าอื่นใดที่ทำซ้ำหรือดัดแปลงงานอันมีลิขสิทธิ์ของผู้อื่น
6. สินค้าปลอมแปลงหรือเลียนแบบเครื่องหมายการค้า

ของต้องกำกัด หมายถึงสินค้าที่มีกฎหมายกำหนดว่าหากจะมีการนำเข้า-ส่งออกหรือผ่านราชอาณาจักรจะต้องได้รับอนุญาตหรือปฏิบัติให้ครบถ้วนตามที่กำหนดไว้ในกฎหมายนั้น ๆ เช่น ต้องมีใบอนุญาตการนำเข้าและส่งออก ต้องปฏิบัติตามประกาศเกี่ยวกับฉลากหรือใบรับรองการวิเคราะห์ เป็นต้น ผู้ใดนำของต้องกำกัดเข้ามา หรือส่งออก หรือส่งผ่านราชอาณาจักรโดยมิได้รับอนุญาต จะมีความผิดตามที่กำหนดไว้ในกฎหมายนั้น ๆ และเป็นความผิดตามมาตรา 244 และ มาตรา 246 แห่งพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2560 ด้วย เช่น

  • พระพุทธรูป ศิลปวัตถุ>> (กรมศิลปากร)
  • อาวุธปืน กระสุนปืน >>(กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย)
  • พืชและส่วนต่าง ๆ ของพืช>> (กรมวิชาการเกษตร)
  • สัตว์มีชีวิตและซากสัตว์ >>(กรมปศุสัตว์)
  • อาหาร ยา เครื่องสำอาง และอาหารเสริม>> (สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา)
  • ชิ้นส่วนยานพาหนะ>> (กระทรวงอุตสาหกรรม)
  • บุหรี่ ยาสูบ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ >>(กรมสรรพสามิต)
  • เครื่องมือวิทยุสื่อสาร อุปกรณ์โทรคมนาคม>> (สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ)

ของต้องห้ามนำเข้า/ส่งออก ราชอาณาจักรไทย

# กฎหมายที่เกี่ยวข้อง ประกาศที่เกี่ยวข้อง หน่วยงานเจ้าของกฎหมาย บทลงโทษ
1 พระราชบัญญัติวัตถุอันตราย พ.ศ.2532 (มาตรา 18, 43) ประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม เรื่อง บัญชีรายชื่อวัตถุอันตราย (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๘ กรมวิชาการเกษตร, สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา, กรมโรงงานอุตสาหกรรม จำคุกไม่เกินสิบปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ (มาตรา 74)
2 พระราชบัญญัติห้ามนำของที่มีการแสดงกำเนิดเป็นเท็จเข้ามา พุทธศักราช ๒๔๘๑ (มาตรา 5) - กรมศุลกากร กระทรวงการคลัง ให้นำบทกฎหมายว่าด้วยการศุลกากร และพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมว่าด้วยการห้ามนำของเข้า และอำนาจของพนักงานศุลกากรเกี่ยวแก่การนั้น บังคับแก่ของต้องห้ามนำเข้าตามพระราชบัญญัตินี้ด้วย
3 พระราชบัญญัติอาหาร พ.ศ.2522 (มาตรา 25(1) + 26 + 58)(มาตรา 25(2) + 27 + 59 (มาตรา 25(3) + 28 + 60) (มาตรา 25(4) + 29 + 61) ประกาศกระทรวงสาธารณสุข (ฉบับที่ 358) พ.ศ.2556, ประกาศกระทรวงสาธารณสุข (ฉบับที่ 345) พ.ศ.2555, ประกาศกระทรวงสาธารณสุข (ฉบับที่ 344) พ.ศ.2555, ประกาศกระทรวงสาธารณสุข (ฉบับที่ (310) พ.ศ.2551)5. ประกาศกระทรวงสาธารณสุข (ฉบับที่ 263) พ.ศ.2545 6. ประกาศกระทรวงสาธารณสุข (ฉบับที่ 264) พ.ศ.2545 7. ประกาศกระทรวงสาธารณสุข (ฉบับที่ 174) พ.ศ.2539 สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุข 1.ระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปีหรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ (มาตรา 58)
2.ระวางโทษจำคุกตั้งแต่หกเดือนถึงสิบปี และปรับตั้งแต่ห้าพันบาทถึงหนึ่งแสนบาท (มาตรา 59)
3. ระวางโทษปรับไม่เกินห้าหมื่นบาท (มาตรา 60)
4. ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปีหรือปรับไม่เกินห้าหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ (มาตรา 61)
4 พระราชบัญญัติเครื่องมือแพทย์ พ.ศ.2531 (มาตรา 12) ประกาศกระทรวงสาธารณสุข (ฉบับที่ ๓๔) พ.ศ.๒๕๔๙ เรื่อง กําหนดเครื่องมือแพทย์ที่ห้ามนําเข้าหรือขาย สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนห้าหมื่นบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ (มาตรา 58)
5 พระราชบัญญัติเครื่องหมายการค้า พ.ศ.2534 (มาตรา ๑๑๐) ประกาศกระทรวงพาณิชย์ (ฉบับที่ 94) พ.ศ.2536 ลงวันที่ 21 เมษายน2536, ประกาศกระทรวงพาณิชย์ว่าด้วยการส่งสินค้าออกไปนอกและการนำสินค้าเข้ามาในราชอาณาจักร พ.ศ.2530 ลงวันที่14 ตุลาคม2530 กรมทรัพย์สินทางปัญญา บรรดาสินค้าที่ได้นำเข้ามาในราชอาณาจักรเพื่อจำหน่าย หรือมีไว้เพื่อจำหน่ายอันเป็นการกระทำความผิดตามพระราชบัญญัตินี้ให้ริบเสียทั้งสิ้นไม่ว่า จะมีผู้ถูกลงโทษตามคำพิพากษาหรือไม่ (มาตรา๑๑๕)
6 พระราชบัญญัติเชื้อโรคและพิษจากสัตว์ พ.ศ.2558 (มาตรา29)   อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ระวางโทษจำคุกไม่เกินสิบปีหรือปรับไม่เกินหนึ่งล้านบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ (มาตรา69)
7 พระราชบัญญัติควบคุมคุณภาพ อาหารสัตว์ พ.ศ.2558 (มาตรา56)   กรมปศุสัตว์ 1.ระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปีหรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ (มาตรา83)
2.ระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงห้าปี หรือปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงหนึ่งแสนบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ (มาตรา86)
3. ระวางโทษจำคุกตั้งแต่หกเดือนถึงสามปี หรือปรับตั้งแต่หนึ่งหมื่นบาทถึงหกหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ (มาตรา 87)
3. ระวางโทษจำคุกตั้งแต่หกเดือน ถึงสามปีหรือปรับตั้งแต่หนึ่งหมื่นบาท ถึงหกหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ (มาตรา 88)
4. ระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปีหรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ (มาตรา 89)
5. ระวางโทษจำคุกไม่เกินหกเดือนหรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ (มาตรา 90)
6. ระวางโทษจำคุกตั้งแต่หกเดือน ถึงสามปีหรือปรับตั้งแต่หนึ่งหมื่นบาท ถึงหกหมื่นบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ (มาตรา 91)
8 1. พระราชบัญญัติการส่งออกไปนอกและการนำเข้ามาในราชอาณาจักรซึ่งสินค้า พ.ศ. 2522 (มาตรา 5 (1))
2. พระราชบัญญัติการส่งออกไปนอกและการนำเข้ามาในราชอาณาจักรซึ่งสินค้า พ.ศ. 2558 (ฉบับที่ 2) (มาตรา 5 /1)
ประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่อง สินค้าต้องห้ามนำผ่านราชอาณาจักร พ.ศ. ๒๕๕๙ ลงวันที่ ๙ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๕๙ (ตามบัญชีท้ายประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่อง สินค้าต้องห้ามนำผ่านราชอาณาจักร พ.ศ. 2559) กระทรวงพาณิชย์ 1. ระวางโทษจําคุกไม่เกินสิบปีหรือปรับเป็นเงินห้าเท่าของสินค้าที่ส่งออกหรือนําเข้าหรือทั้งจําทั้งปรับ กับให้ริบสินค้ารวมทั้งสิ่งที่ใช้บรรจุและพาหนะใด ๆ ที่ใช้ในการบรรทุกสินค้า ซึ่งเกี่ยวเนื่องกับความผิดรวมทั้งพาหนะที่ใช้ลากจูงพาหนะบรรทุกสินค้านั้นเสีย (มาตรา ๒๐)
2. ระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับเป็นเงินสองเท่าครึ่งของสินค้าที่นำผ่าน หรือทั้งจำทั้งปรับ กับให้ริบสินค้า...(มาตรา 20./1)
9 พระราชบัญญัติปุ๋ย พ.ศ.2518 (มาตรา 30, 32, 32) 1. ประกาศกรมวิชาการเกษตร เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขเกี่ยวกับปุ๋ย ที่ได้รับการยกเว้นไม่ต้องขึ้นทะเบียน ตามพระราชบัญญัติปุ๋ย พ.ศ.๒๕๑๘ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติปุ๋ย (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๐ พ.ศ. ๒๕๕๔
2. ประกาศกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เรื่อง กำหนดปุ๋ยที่ได้รับการยกเว้นไม่ต้องขึ้นทะเบียน ตามพระราชบัญญัติปุ๋ย พ.ศ.๒๕๑๘ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติปุ๋ย (ฉบับที่ ๒) พ.ศ.๒๕๕๐ พ.ศ.๒๕๕๔
กรมวิชาการเกษตร 1. ระวางโทษจำคุกตั้งแต่หกเดือนถึงสามปี และปรับตั้งแต่หนึ่งหมื่นบาทถึงห้าหมื่นบาท (มาตรา 65)
2. ระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงห้าปีและปรับตั้งแต่หนึ่งหมื่นบาทถึงห้าหมื่นบาท (มาตรา 66)
3. ระวางโทษจำคุกตั้งแต่หกเดือนถึงสามปี และปรับตั้งแต่สี่หมื่นถึงสองแสนบาท (มาตรา 67)
4. ระวางโทษจำคุกตั้งแต่หกเดือนถึงสองปี หรือปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงแปดหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ (มาตรา 68)
10 พระราชบัญญัติพันธุ์พืช พ.ศ.2518 (มาตรา 33, 36, 37) ประกาศกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เรื่อง กำหนดชนิดและชื่อพันธุ์ของเมล็ดพันธุ์ให้เป็นเมล็ดพันธุ์ควบคุม พ.ศ.๒๕๕๖ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ 1. ระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปีหรือปรับไม่เกินสี่พันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ (มาตรา 62)
2. ระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปีหรือปรับไม่เกินสองพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ (มาตรา 64)
3. ระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปีหรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ (มาตรา 65)
11 พระราชบัญญัติยา พ.ศ.2510 (มาตรา 72)   คณะกรรมการอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุข 1. ระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงยี่สิบปี และปรับตั้งแต่สองพันบาทถึงหนึ่งหมื่นบาท (มาตรา 119)
2. ระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปีและปรับไม่เกินห้าพันบาท (มาตรา 120 วรรค 1)
3. ระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปีหรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ (มาตรา 120 วรรค 2)
4. ระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปีหรือปรับไม่เกินสามพันบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ (มาตรา 121)
5. ระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปีหรือปรับไม่เกินห้าพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ (มาตรา 122)
12 พระราชบัญญัติยาสูบ พ.ศ.2509 (มาตรา 27) - กรมสรรพสามิต กระทรวงการคลัง ระวางโทษจำคุกไม่เกินหกเดือนหรือปรับไม่เกินสองพันบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ (มาตรา 52)
13 พระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 (มาตรา 39) - คณะกรรมการอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุข 1. ระวางโทษจำคุกตั้งแต่สามปีถึงยี่สิบปี และปรับตั้งแต่สามแสนบาทถึงสองล้านบาท (มาตรา 82)
2. ระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปีหรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ (มาตรา 84)
3. ระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปีและปรับไม่เกินห้าแสนบาท (ม.86)
14 พระราชบัญญัติวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท พ.ศ.2518 (มาตรา 13, 13 ทวิ, 36) 1. ประกาศกระทรวงสาธารณสุข ฉบับที่ 97 (พ.ศ.2539) เรื่อง ระบุชื่อ และจัดประเภทวัตถุออกฤทธิ์ตามความในพระราชบัญญัติวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิต และประสาท พ.ศ.2518
2. ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง ระบุชื่อและจัดแบ่งประเภทวัตถุออกฤทธิ์ (เพิ่มเติม) พ.ศ.2559
คณะกรรมการอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุข 1. ระวางโทษจำคุกตั้งแต่ห้าปีถึงยี่สิบปี และปรับตั้งแต่หนึ่งแสนบาทถึงสี่แสนบาท (มาตรา 89)
2. ระวางโทษจำคุกตั้งแต่ห้าปีถึงสิบห้าปี และปรับตั้งแต่หนึ่งแสนบาทถึงสามแสนบาท (ม.98)
3. ระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงสิบปี และปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงสองแสนบาท (มาตรา 99)
4. ระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปีหรือปรับไม่เกินสี่หมื่นหรือทั้งจำทั้งปรับ (มาตรา 100)
5. ระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปีหรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ (มาตรา 101)


ของต้องมีใบอนุญาตใบรับรองก่อนนำเข้าและส่งออก จากราชอาณาจักรไทย

# กฎหมายที่เกี่ยวข้อง ประกาศที่เกี่ยวข้อง หน่วยงานเจ้าของกฎหมาย บทลงโทษ
1 พระราชบัญญัติวัตถุอันตราย พ.ศ.2532 (มาตรา 18, 22, 23, 36) ประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม เรื่อง บัญชีรายชื่อวัตถุอันตราย (ฉบับที่ ๒) พ.ศ.๒๕๕๘ กรมโรงงานอุตสาหกรรม 1. จำคุกไม่เกินหนึ่งปีหรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ (มาตรา72)
2. จำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสองแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ (มาตรา73)
2 พระราชบัญญัติวิทยุคมนาคม พ.ศ.2498 (มาตรา 6) 1. ประกาศคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ เรื่อง กำหนดให้เครื่องวิทยุคมนาคมและสถานีวิทยุคมนาคมในกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ได้รับยกเว้นไม่ต้องได้รับใบอนุญาต ตามพระราชบัญญัติวิทยุคมนาคม พ.ศ.๒๕๕๖
2. ประกาศคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ เรื่อง การนำเข้าเครื่องวิทยุคมนาคม ลงวันที่ ๑๕ มีนาคม๒๕๕๔
สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือจำคุกไม่เกินห้าปี หรือทั้งปรับทั้งจำ (มาตรา 23)
3 พระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535 (มาตรา 23) กฎกระทรวง การขอใบอนุญาตหรือใบรับรองและการออกใบอนุญาตหรือใบรับรองให้นำเข้า ให้ส่งออก หรือให้นำผ่านซึ่งสัตว์ป่า ซากของสัตว์ป่า หรือผลิตภัณฑ์ที่ทำจากสัตว์ป่า พ.ศ.2558 ประกาศ ณ วันที่ 23 เมษายน 2558 กรมป่าไม้, กรมประมงเฉพาะที่เกี่ยวกับสัตว์น้ำ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ 1. ระวางโทษจำคุกไม่เกินสี่ปี หรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ (มาตรา 47)
2. ระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปีหรือปรับไม่เกินสามหมื่นบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ (มาตรา 48)
4 พระราชบัญญัติสุรา พ.ศ.2493 (มาตรา 6) ประกาศสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา เรื่อง คำชี้แจงประกาศกระทรวงสาธารณสุข (ฉบับที่ 272) พ.ศ.2546 เรื่อง สุรา กรมสรรพสามิต กระทรวงการคลัง ปรับไม่เกินหนึ่งพันบาท (มาตรา 35)
5 พระราชบัญญัติอ้อยและน้ำตาลทราย พ.ศ.2527 (มาตรา 47) พระราชบัญญัติการส่งออกไปนอกและการนำเข้ามาในราชอาณาจักรซึ่งสินค้า พ.ศ. 2522 สำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย -
6 พระราชบัญญัติอาวุธปืนเครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิงและสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ.2490 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (มาตรา 7, 24, 38, 47, 52) - กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงการคลัง 1. ระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงสิบปี และปรับตั้งแต่สองพันบาทถึงสองหมื่นบาท (มาตรา 72)
2. ระวางโทษจำคุกตั้งแต่สองปีถึงยี่สิบปี และปรับตั้งแต่สี่พันบาทถึงสี่หมื่นบาท (มาตรา 73)
3. ระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงยี่สิบปี และปรับตั้งแต่สองพันบาทถึงสี่หมื่นบาท (มาตรา 74)
4. ระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งเดือนหรือปรับไม่เกินหนึ่งพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ (มาตรา 77)
7 พระราชบัญญัติอาหาร พ.ศ.2522 (มาตรา 15) 1. ประกาศกระทรวงสาธารณสุข (ฉบับที่ 331) พ.ศ.2554
2. ประกาศกระทรวงสาธารณสุข (ฉบับที่ 307) พ.ศ.2550
3. ประกาศกระทรวงสาธารณสุข (ฉบับที่ 372) พ.ศ.2558
4. ประกาศกระทรวงสาธารณสุข (ฉบับที่ 359) พ.ศ.2556
5. ประกาศกระทรวงสาธารณสุข (ฉบับที่ 360) พ.ศ.2556
สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุข ระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินสามหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ (มาตรา 53)
8 พระราชกำหนดประมง พ.ศ.2558 - อธิบดีกรมประมง ระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปีหรือปรับไม่เกินหนึ่งล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ (มาตรา 144 วรรคหนึ่ง)
9 พระราชบัญญัติควบคุมยาง พ.ศ.2542 (มาตรา ๑๘, ๑๙, ๓๐) 1. กฎกระทรวงฉบับที่ 12 (พ.ศ.2536) ออกตามความในพระราชบัญญัติ ควบคุมยาง พุทธศักราช 2481
2. กฎกระทรวงฉบับที่ 11 (พ.ศ.2527) ออกตามความในพระราชบัญญัติ ควบคุมยาง พุทธศักราช 2481
3. กฎกระทรวงฉบับที่ 10 (พ.ศ.2518) ออกตามความในพระราชบัญญัติ ควบคุมยาง พุทธศักราช 2481
4. กฎกระทรวงฉบับที่ 9 (พ.ศ.2511) ออกตามความในพระราชบัญญัติ ควบคุมยาง พุทธศักราช 2481
5. กฎกระทรวงการคลังออกตามความในพระราชบัญญัติควบคุมยาง พุทธศักราช 2481
กรมวิชาการเกษตร 1. ระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ (มาตรา 52)
2. เมื่อมีการลงโทษให้ริบยาง เครื่องมือเครื่องใช้รวมทั้งภาชนะและหีบห่อบรรจุยางที่เกี่ยวเนื่องกับความผิดในคดีและให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์จัดการทำลายเสียหรือจัดการอย่างอื่นตามที่เห็นสมควร (มาตรา 57)
10 พระราชบัญญัติควบคุมยุทธภัณฑ์ พ.ศ.๒๕๓๐ (มาตรา ๑๕) 1. ประกาศกระทรวงกลาโหม เรื่อง กำหนดยุทธภัณฑ์ที่ต้องขออนุญาตตามพระราชบัญญัติควบคุมยุทธภัณฑ์ พ.ศ.๒๕๓๐
2. ประกาศกระทรวงกลาโหม เรื่อง กำหนดชนิดยุทธภัณฑ์ที่ต้องขออนุญาต พ.ศ.2541
3. ประกาศกระทรวงกลาโหม เรื่อง กำหนดชนิดยุทธภัณฑ์ที่ต้องขออนุญาต พ.ศ.2547
4. ประกาศกระทรวงกลาโหม เรื่อง กำหนดชนิดยุทธภัณฑ์ที่ต้องขออนุญาต พ.ศ.2548
5. ประกาศกระทรวงกลาโหม เรื่อง กำหนดชนิดยุทธภัณฑ์ที่ต้องขออนุญาต พ.ศ.2551
กระทรวงกลาโหม 1. มาตรา ๔๒ ระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินห้าหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ (มาตรา ๔๒)
2. ระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินห้าหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ(มาตรา ๔๓)
11 พระราชบัญญัติเครื่องสำอาง พ.ศ.2558 (มาตรา ๑๔) ประกาศสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา เรื่อง กำหนดแบบแจ้งรายละเอียดการผลิตเพื่อขายหรือนำเข้าเพื่อขายเครื่องสำอางควบคุม พ.ศ. 2557 สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา 1. ระวางโทษจําคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสองแสนบาทหรือทั้งจํา ทั้งปรับ (มาตรา 60 วรรคแรก)
2. ระวางโทษจําคุกไม่เกินหกเดือน หรือปรับไม่เกินห้าหมื่นบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ (มาตรา ๖๐ วรรคสอง)
3. ระวางโทษจําคุกไม่เกินหกเดือน หรือปรับไม่เกินห้าหมื่นบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ (มาตรา 62)
12 พระราชบัญญัติควบคุมแร่ดีบุก พ.ศ. 2514 (มาตรา 6) - กรมทรัพยากรธรณี 1. ระวางโทษจำคุกไม่เกินหกเดือน หรือปรับไม่เกินสี่เท่าของราคาแร่ในวันกระทำความผิด หรือทั้งจำทั้งปรับ และจะริบแร่ที่มีอยู่โดยการกระทำความผิดตามมาตรานี้เสียก็ได้ (มาตรา 29)
2. ระวางโทษปรับไม่เกินสองพันบาท (มาตรา 30)
3. ระวางโทษปรับไม่เกินสี่เท่าของราคาแร่ในวันกระทำความผิดในส่วนที่เกินจำนวน และจะริบแร่ที่มีอยู่เกินจำนวนนั้นเสียก็ได้ (มาตรา 31)
13 พระราชบัญญัติเชื้อโรคและพิษจากสัตว์ พ.ศ.2558 (มาตรา ๒๐, ๒๑, ๒๒, ๒๗) - กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ 1. ต้องระวางโทษปรับไม่เกินห้าหมื่นบาท (มาตรา ๖๓)
2. ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสองแสนบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ (มาตรา ๖๔ วรรคแรก)
3. ระวางโทษปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท (มาตรา 64 วรรคสอง)
4. ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกินสามปีหรือปรับไม่เกินสามแสนบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ (มาตรา 65 วรรคแรก)
5. ต้องระวางโทษปรับไม่เกินสองแสนบาท (มาตรา 65 วรรคสอง)
14 พระราชบัญญัติกักพืช พ.ศ.2507 (มาตรา 6 ทวิ วรรคสอง, ๘, ๙, ๑๐, ๑๑) - กรมวิชาการเกษตร 1. ระวางโทษปรับไม่เกินสองหมื่นบาท(มาตรา ๒๐ ตรี)
2. ระวางโทษจําคุกไม่เกินหนึ่งปีหรือปรับไม่เกินสองหมื่น บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ (มาตรา ๒๑)
3. ระวางโทษปรับไม่เกินสี่พันบาท(มาตรา ๒๒)
4. บรรดาพืช ศัตรูพืช หรือพาหะ ภายใต้บังคับแห่งพระราชบัญญัตินี้ที่มิได้นําเข้ามาทางด่านตรวจพืชก็ดีหรือนําเข้าหรือนําผ่านราชอาณาจักรโดยไม่ชอบด้วยพระราชบัญญัตินี้ด้วยประการใด ๆ ก็ดีหรือพืช ศัตรูพืชหรือพาหะ ซึ่งเป็นวัตถุแห่งการกระทําผิด เกี่ยวกับเขตควบคุมพืชตามที่ระบุไว้ในมาตรา ๘ มาตรา ๙ มาตรา ๑๔ หรือมาตรา ๑๘ ให้ริบเสียทั้งสิ้น ไม่ว่าจะมีผู้ถูกลงโทษตามคำพิพากษาหรือไม่ บรรดาสิ่งที่ศาลสั่งริบให้ตกเป็นของกรมวิชาการ เกษตร เพื่อจัดการตามที่เห็นสมควร (มาตรา 26)
15 พระราชบัญญัติงาช้าง พ.ศ. ๒๕๕๘ (มาตรา ๕) กฎกระทรวงการขออนุญาตและการอนุญาตให้นําเข้า ส่งออก หรือนำผ่านซึ่งงาช้าง พ.ศ. 2558 กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่า และพันธุ์พืช ระวางโทษจําคุกไม่เกินสามปีหรือปรับไม่เกินหกล้านบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ (มาตรา ๑๓)
16 1. พระราชบัญญัติการส่งออกไปนอกและการนำเข้ามาในราชอาณาจักรซึ่งสินค้า พ.ศ. 2522 (มาตรา ๕ (2), ๗)
2. พระราชบัญญัติการส่งออกไปนอกและการนำเข้ามาในราชอาณาจักรซึ่งสินค้า (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2558 (มาตรา 7/1)
กฎกระทรวง ฉบับที่ 2 (พ.ศ. 2523) ออกตามความในพระราชบัญญัติการส่งออกไปนอกและการนำเข้ามาในราชอาณาจักรซึ่งสินค้า พ.ศ. 2522 กระทรวงพาณิชย์ 1. ระวางโทษจําคุกไม่เกินสิบปีหรือปรับเป็นเงินห้าเท่าของสินค้าที่ส่งออกหรือนําเข้าหรือทั้งจําทั้งปรับ กับให้ริบสินค้ารวมทั้งสิ่งที่ใช้บรรจุและพาหนะใด ๆ ที่ใช้ในการบรรทุกสินค้า ซึ่งเกี่ยวเนื่องกับความผิดรวมทั้งพาหนะที่ใช้ลากจูงพาหนะบรรทุกสินค้านั้นเสีย (มาตรา ๒๐)
2. ระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับเป็นเงินสองเท่าครึ่งของสินค้าที่นำผ่าน หรือทั้งจำทั้งปรับ กับให้ริบสินค้า...(มาตรา 20/1)
17 1. พระราชบัญญัติควบคุมการแลกเปลี่ยนเงิน พ.ศ.2485 (มาตรา 8 ทวิ วรรคสอง)
2. พระราชบัญญัติควบคุมการแลกเปลี่ยนเงิน (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2559 (มาตรา 6/1)
1. กฎกระทรวง ฉบับที่ 13 (พ.ศ.2497) ออกตามความในพระราชบัญญัติควบคุมการแลกเปลี่ยนเงิน พ.ศ.2485
2. กฎกระทรวง กำหนดหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวกับการส่งหรือนำเงินตรา เงินตราต่างประเทศและตราสารเปลี่ยนมือ ออกไปนอกหรือเข้ามาในประเทศ พ.ศ.2559 ให้ไว้ ณ วันที่ 22 ธันวาคม 2559
3. ประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง การควบคุมการแลกเปลี่ยนเงิน (ฉบับที่ 6) ประกาศ ณ วันที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2560
กรมศุลกากร นำบทกฎหมายว่าด้วยศุลกากรและอำนาจพนักงานศุลกากรตามกฎหมายว่าด้วยการนั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ว่าด้วยการตรวจของและป้องกันลักลอบหนีศุลกากร การตรวจค้น การยึดและริบของ หรือการจับกุมผู้กระทำผิด การแสดงเท็จ และการฟ้องร้องมาใช้บังคับแก่การกระทำดังกล่าวรวมทั้งบุคคลและสิ่งของที่เกี่ยวข้อง
18 พระราชบัญญัติควบคุมคุณภาพอาหารสัตว์ พ.ศ.2558 (มาตรา ๖, ๑๕, ๑๖,35,37, 61 (2)) - กรมปศุสัตว์ 1. ระวางโทษจําคุกไม่เกินสามปีหรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ (มาตรา 71)
2. ระวางโทษจําคุกไม่เกินหกเดือนหรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ (มาตรา 72)
3. ระวางโทษจําคุกไม่เกินสามปีหรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ (มาตรา ๗๔ วรรคแรก)
4. ระวางโทษจําคุกไม่เกินหนึ่งปีหรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ (มาตรา 74 วรรคสอง)
5. ระวางโทษจำคุกตั้งแต่หกเดือนถึงสามปี หรือปรับตั้งแต่หนึ่งหมื่นบาทถึงหกหมื่นบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ (มาตรา 91)
19 พระราชบัญญัติปุ๋ย พ.ศ.2518 (มาตรา 12) ประกาศกรมวิชาการเกษตร เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขเกี่ยวกับการนำเข้า ส่งออก หรือการผลิตปุ๋ยที่ไม่ต้องปฏิบัติตามมาตรา ๑๒ และมาตรา ๓๕ แห่งพระราชบัญญัติปุ๋ย พ.ศ. ๒๕๑๘ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติปุ๋ย (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๐ พ.ศ. ๒๕๕๔ กรมวิชาการเกษตร ระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินสองแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ (มาตรา 57)
20 พระราชบัญญัติพลังงานปรมาณูเพื่อสันติ พ.ศ.2504 (มาตรา 13) - กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ระวางจำคุกไม่เกินหนึ่งปีหรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ (มาตรา 21)
21 พระราชบัญญัติพันธุ์พืช พ.ศ.2518 (มาตรา 14, 29 ตรี, 30) 1. ประกาศกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เรื่อง พืชอนุรักษ์พ.ศ. ๒๕๕๗
2. ประกาศกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เรื่อง กำหนดชนิดและชื่อพันธุ์ของพืชให้เป็นพืชสงวน ตามพระราชบัญญัติพันธุ์พืช พ.ศ.2518
3. ประกาศกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เรื่อง กำหนดชนิด และชื่อพันธุ์ของพันธุ์พืชให้เป็นพันธุ์พืชสงวน ตามพระราชบัญญัติพันธุ์พืช พ.ศ.๒๕๑๘ (ฉบับที่ ๙) พ.ศ.๒๕๓๐
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ 1. ระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปีหรือปรับไม่เกินสี่พันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ (มาตรา 56)
2. ระวางโทษจำคุกไม่เกินสามเดือน หรือปรับไม่เกินสามพันบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ (มาตรา 61ทวิ)
3. ระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปีหรือปรับไม่เกินสี่พันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ (มาตรา 62)
22 พระราชบัญญัติไพ่ พ.ศ.2486 (มาตรา 5) - กรมสรรพสามิต ระวางโทษจำคุกไม่เกินสิบปีและปรับตามจำนวนไพ่ของกลางเป็นเงินสี่เท่าของราคาไพ่ (มาตรา 14)
23 พระราชบัญญัติมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม พ.ศ.2511 (มาตรา 21 ทวิ) - สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม ระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ (มาตรา 48 ทวิ)
24 พระราชบัญญัติมาตรฐานชั่งตวงวัด พ.ศ.2542 (มาตรา 17, 34) - กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ 1. ระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปีหรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ (มาตรา 68)
2. ระวางโทษจำคุกไม่เกินหกเดือนหรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ (มาตรา 81)
25 พระราชบัญญัติยา พ.ศ.2510 (มาตรา 12, 27 (2), 27ทวิ, 46, 59 (2), 79) - คณะกรรมการอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุข 1. ระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปีและปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท (มาตรา 101)
2. ระวางโทษปรับตั้งแต่สองพันถึงหนึ่งหมื่นบาท (มาตรา 105)
3. ระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปีและปรับไม่เกินห้าพันบาท (มาตรา 111)
4. ระวางโทษปรับหนึ่งพันบาทถึงห้าพันบาท (ม.114)
5. ระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปีหรือปรับไม่เกินห้าพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ (มาตรา 123)
26 พระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 (มาตรา 15, 16, 20, 26) - คณะกรรมการอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุข 1. ระวางโทษจำคุกตลอดชีวิตและปรับตั้งแต่หนึ่งล้านบาทถึงห้าล้านบาท (มาตรา 65)
2. ระวางโทษจำคุกตั้งแต่ยี่สิบปีถึงจำคุกตลอดชีวิต และปรับตั้งแต่หนึ่งแสนบาทถึงหนึ่งล้านบาท (มาตรา 68)
3. ระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงสามปี และปรับตั้งแต่หนึ่งแสนบาทถึงสามแสนบาท (มาตรา 70)
4. ระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงสิบปี และปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงสองแสนบาท (มาตรา 73)
5. ระวางโทษจำคุกตั้งแต่สองปีถึงสิบห้าปี และปรับตั้งแต่สองแสนบาท ถึงหนึ่งล้านห้าแสนบาท (มาตรา 75)
27 พระราชบัญญัติปุ๋ย พ.ศ.2518 (มาตรา 12) ประกาศกรมวิชาการเกษตร เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขเกี่ยวกับการนำเข้า ส่งออก หรือการผลิตปุ๋ยที่ไม่ต้องปฏิบัติตามมาตรา ๑๒ และมาตรา ๓๕ แห่งพระราชบัญญัติปุ๋ย พ.ศ. ๒๕๑๘ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติปุ๋ย (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๐ พ.ศ. ๒๕๕๔ กรมวิชาการเกษตร ระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินสองแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ (มาตรา 57)
28 พระราชบัญญัติโรคระบาดสัตว์ พ.ศ.2558 (มาตรา 31) ประกาศกรมปศุสัตว์ เรื่อง การขออนุญาต การออกใบอนุญาต วิธีการนำเข้า ส่งออก นำผ่านราชอาณาจักรซึ่งสัตว์หรือซากสัตว์ พ.ศ.2558 ประกาศ ณ วันที่ 13 ตุลาคม 2558 กรมปศุสัตว์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปีหรือปรับไม่เกินสองแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ (มาตรา 68)
29 พระราชบัญญัติเลื่อยโซ่ยนต์ พ.ศ.2545 (มาตรา 4) - กรมป่าไม้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปีหรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ศาลสั่งริบ (มาตรา 17)
30 พระราชบัญญัติวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิต และประสาท พ.ศ.2518 (มาตรา 16, 40) 1. ประกาศกระทรวงสาธารณสุข ฉบับที่ 97 (พ.ศ.2539) เรื่อง ระบุชื่อและจัดประเภทวัตถุออกฤทธิ์ตามความในพระราชบัญญัติวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท พ.ศ.2518
2. ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง ระบุชื่อและจัดแบ่งประเภทวัตถุออกฤทธิ์ (เพิ่มเติม) พ.ศ.2559
คณะกรรมการอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุข 1. ระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปีและปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท (มาตรา 90)
2. ระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปีหรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ (มาตรา 102)

สินค้าต้องห้ามส่งออกไปจีน

สินค้าประเภทต่าง ๆ ที่ห้ามส่งออกไปยังประเทศจีน มีข้อกำหนดที่ละเอียด โดยประเภทหลัก ๆ มีดังนี้:

  1. อาวุธยุทธภัณฑ์และวัตถุระเบิด:
    ประเภท: อาวุธทุกชนิด, กระสุน, วัตถุระเบิด
    ห้ามส่งออกเพื่อความปลอดภัยและมั่นคงของชาติ
  2. ยาเสพติดและสารเสพติด:
    ประเภท: เฮโรอีน, มอร์ฟีน, กัญชา และยาเสพติดอื่นๆ
    เป็นสิ่งต้องห้ามตามกฎหมายว่าด้วยการควบคุมยาเสพติด
  3. สัตว์และพืชใกล้สูญพันธุ์:
    ประเภท: สัตว์หายาก เช่น งาช้าง, หนังสัตว์, พันธุ์พืชหายาก
    ปกป้องความหลากหลายทางชีวภาพและปฏิบัติตามข้อตกลงระหว่างประเทศ
  4. สารเคมีอันตรายและสารพิษ:
    ประเภท: สารเคมีพิษ, วัตถุอันตราย เช่น สารตะกั่ว, ปรอท
    เพื่อป้องกันผลกระทบต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อม
  5. เทคโนโลยีที่ถูกควบคุม:
    ประเภท: เทคโนโลยีอวกาศ, ระบบ LIDAR, เทคโนโลยีทางการทหาร
    จำกัดการส่งออกเพื่อป้องกันความเสี่ยงต่อความมั่นคงของประเทศ
  6. ผลิตภัณฑ์จากโรคระบาดหรือพื้นที่เสี่ยง:
    ประเภท: อาหารหรือยาจากพื้นที่ที่มีการระบาดของโรค
    ป้องกันการแพร่กระจายของโรคระบาดและความเสี่ยงด้านสุขอนามัย
  7. เงินปลอมและตราสารการเงินปลอมแปลง:
    ประเภท: เงินปลอม, ตราสารหนี้ปลอม
    ห้ามส่งออกเพื่อป้องกันการฉ้อโกงทางการเงิน
  8. รังนก (ยกเว้นรังนกกระป๋อง) ยาที่ทำจากสัตว์ และผลิตภัณฑ์ดัดแปลงพันธุกรรม

รายการต้องห้ามได้แบ่งสินค้าต้องห้ามเป็น 3 ประเภทใหญ่ รวมทั้งหมด 16 รายการ โดยสินค้าต้องห้ามประเภทสัตว์และผลิตภัณฑ์ที่ทำจากสัตว์นั้น ได้แก่:

  • สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม นก ปลา สัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ สัตว์เลื้อยคลาน แมลง สัตว์ไม่มีกระดูกสันหลัง และส่วนพันธุกรรมสัตว์ทุกประเภท
  • เนื้อ (สุกหรือดิบ) และผลิตภัณฑ์ที่ทำจากเนื้อ (รวมถึงเครื่องใน)
  • ผลิตภัณฑ์สัตว์น้ำ
  • นมสัตว์และผลิตภัณฑ์ที่ทำจากนม ซึ่งรวมถึงนมดิบ นมสด นมเปรี้ยว ครีมสัตว์ เนย ชีส และผลิตภัณฑ์นมอื่น ๆ ที่ยังไม่ได้รับการฆ่าเชื้อในอุณหภูมิสูง
  • ไข่และผลิตภัณฑ์ที่ทำจากไข่ ซึ่งรวมถึงไข่สด ไข่เยี่ยวม้า ไข่เค็ม ของเหลวจากไข่ เปลือกไข่ มายองเนสและผลิตภัณฑ์ไข่อื่น ๆ ที่ยังไม่ได้รับการฆ่าเชื้อในอุณหภูมิสูง เป็นต้น

 

การส่งออกสินค้าจากไทยไปจีน จำเป็นต้องศึกษาว่าทางการไทยอนุญาตให้ส่งออกสินค้าประเภทใดบ้าง เพื่อเตรียมความพร้อมให้กับตัวสินค้าที่สนใจจะส่งออก โดยปัจจุบันไทยได้แบ่งสินค้าส่งออกเป็น 4 ประเภท ได้แก่:

  1. สินค้ากำหนดมาตรฐานส่งออก
  2. สินค้ากำหนดมาตรการส่งออก
  3. สินค้ากำหนดโควต้าส่งออก
  4. สินค้าทั่วไป

1)สินค้ากำหนดมาตรฐานส่งออก

พ.ร.บ.มาตรฐานสินค้าขาออก พ.ศ. 2522 ได้กำหนดมาตรฐานสำหรับสินค้าส่งออกของไทย เพื่อรักษามาตรฐานตามกฎหมายและควบคุมคุณภาพสินค้าที่จะส่งออก รวมถึงสร้างความน่าเชื่อถือให้แก่ผู้นำเข้าในต่างประเทศและเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันของสินค้าส่งออกของไทยด้วย.

ปัจจุบัน ไทยกำหนดสินค้าที่มีมาตรฐานส่งออกจำนวน 10 รายการ ได้แก่:

  • ข้าวโพด
  • ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง
  • ข้าวหอมมะลิไทย
  • ข้าวฟ่าง
  • แป้งมันสำปะหลัง
  • ปลาป่น
  • ไม้สักแปรรูป
  • ปุยนุ่น
  • ถั่วเขียว
  • ถั่วเขียวสีดำ

ผู้ส่งออกจะต้องจดทะเบียนเป็นผู้ทำการค้าขาออกซึ่งสินค้ามาตรฐานเหล่านี้ โดยกรมการค้าต่างประเทศจะมีผู้ประกอบธุรกิจตรวจสอบมาตรฐานทำหน้าที่ตรวจสอบและออกใบรับรองมาตรฐานจากสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยก่อนที่จะสามารถส่งออกไปนอกราชอาณาจักรได้.

https://www.ditp.go.th/contents_attach/518446/518446.pdf

หมายเหตุ :
(1) การส่งออกสินค้า 10 รายการข้างต้น ผู้ประกอบการจะต้องยื่นเรื่องเพื่อขอบัตรประจำตัวผู้ส่งออกก่อน โดยหลังจากที่ได้รับบัตรประจำตัวผู้ส่งออกแล้ว จำเป็นจะต้องยื่นคำร้องเพื่อขอเป็นผู้ส่งออกสินค้าที่มีมาตรฐานดังกล่าวกับสำนักงานมาตรฐานสินค้า กรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ ซึ่งสามารถศึกษารายละเอียดขั้นตอนในการยื่นจดทะเบียนได้ที่ http://ocs.dft.go.th เมนู “ผู้ทำการค้า ขาออกซึ่งสินค้ามาตรฐาน”
(2) หลังจากที่ยื่นคำร้องแล้ว จะต้องนำสินค้าที่ต้องการส่งออกให้สำนักงานตรวจสอบมาตรฐาน สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย หรือนิติบุคคล/ส่วนราชการที่ได้รับมอบหมายจากกระทรวงพาณิชย์ ทำการตรวจสอบสินค้าดังกล่าว
(3) หลังจากสินค้าผ่านเกณฑ์การตรวจสอบแล้ว จะได้รับ “ใบรับรองมาตรฐานสินค้า” จากสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ซึ่งจะใช้เป็นเอกสารประกอบการส่งออกสินค้า 10 รายการข้างต้น

2)สินค้ากำหนดมาตรการส่งออก

พ.ร.บ.การส่งออกไปนอกและการนำเข้ามาในราชอาณาจักร พ.ศ. 2522 ได้กำหนดมาตรการสำหรับการส่งออกสินค้าจากไทย เพื่อจัดระเบียบควบคุมการส่งออกให้เป็นไปตามนโยบายที่รัฐบาลไทยกำหนด เพื่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจและประโยชน์ของชาติ ตลอดจนเป็นไปตามความตกลงระหว่างประเทศด้วย ปัจจุบัน ไทยแบ่งสินค้าที่มีมาตรการการส่งออกเป็น 3 ประเภท ได้แก่ สินค้าห้ามส่งออก สินค้าที่ต้อง ขออนุญาตส่งออก และสินค้าที่ต้องมีหนังสือรับรอง/ขึ้นทะเบียน/ขึ้นบัญชีประกอบการส่งออก

  • สินค้าห้ามส่งออก:

    กระทรวงพาณิชย์ประกาศห้ามส่งออก “ทราย” เพื่อสงวนไว้ใช้สำหรับอุตสาหกรรมภายในประเทศ และเพื่อป้องกันการทำลายสภาพสิ่งแวดล้อมทางธรรมชาติ.

  • 2.1)สินค้าที่ต้องขออนุญาตส่งออก:
    • 1.)สินค้าเกษตรกรรม ได้แก่:
      • ข้าว (ข้าวส่งออกภายใต้โควต้าภาษีของสหภาพยุโรป)
      • ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง
      • ไม้และไม้แปรรูป
      • กาแฟ
      • กากถั่ว
      • ถ่านไม้
      • ช้าง
      • กุ้งกุลาดำมีชีวิต
      • หอยมุกและผลิตภัณฑ์
      • ปลาทะเลสวยงามที่มีชีวิต
    • 2)สินค้าอุตสาหกรรม:
      • น้ำตาลทราย
      • ถ่านหิน
      • เทวรูป
      • พระพุทธรูป
      • ทองคำ
      • สินค้ารี-เอ็กซ์ปอร์ต
      • แร่ที่มีทรายเป็นส่วนประกอบ
  • 2.3)สินค้าที่ต้องมีหนังสือรับรอง/ขึ้นทะเบียน/ขึ้นบัญชีประกอบการส่งออก:
    1.ผัก ผลไม้
    2.ดอกกล้วยไม้
    3.ลำไย
    4.ทุเรียน
    5.กุ้ง ปลาหมึก และผลิตภัณฑ์
    6.ปลาทูน่าบรรจุภาชนะอัดลม
    7.สับปะรดกระป๋อง
    8.เครื่องนุ่งห่ม ด้าย ผ้าผืน และผลิตภัณฑ์ทออื่นที่มิใช่เครื่องนุ่งหุ่ม
    9.รถยนต์และชิ้นส่วนของรถยนต์ที่ส่งออกไปไต้หวัน
    10.เพชรที่ยังไม่เจียระไน


หมายเหตุ : สามารถศึกษารายละเอียดเกี่ยวกับมาตรการของสินค้าแต่ละประเภทได้ที่เว็บไซต์กรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ http://www.dft.go.th (หน้ามาตรการนำเข้า-ส่งออกสินค้าของไทย) หรือติดต่อขอคำปรึกษาเพิ่มเติม ได้ที่สำนักมาตรการทางการค้า กรมการค้าต่างประเทศ โทรศัพท์ 0-2547-4771-86
3) สินค้าที่มีโควต้าส่งออก
กระทรวงพาณิชย์ได้กำหนดโควต้าการส่งออกสินค้าบางประเภท เพื่อเป็นการควบคุมปริมาณสินค้าที่มีความสำคัญต่อความมั่นคงและผลประโยชน์ของชาติ โดยปัจจุบันได้จำกัดปริมาณการส่งออกสินค้าสำคัญ 4 รายการ ได้แก่ 1) ข้าว 2) มันสำปะหลัง 3) น้ำตาล และ 4) ยางพารา โดยสามารถศึกษากฎระเบียบเกี่ยวกับ การส่งออกสินค้าทั้ง 4 รายการดังกล่าวได้จากกรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ โทรศัพท์ 0-2547-4771-86 หรือสายด่วนหมายเลข 1385 เว็บไซต์ http://www.dft.go.th


4) สินค้าทั่วไป
สินค้าทั่วไป หมายถึง สินค้าอื่น ๆ ที่อยู่นอกเหนือจากประเภทสินค้า 3 ประเภทข้างต้น ซึ่งผู้ประกอบการไทยสามารถส่งออกได้โดยเสรี
การขออนุมัติเป็นผู้ส่งออก
เมื่อตรวจสอบแล้วว่าสินค้าที่ต้องการส่งออกสามารถส่งออกไปจีนได้ตามกฎระเบียบการนำเข้าของจีนและกฎระเบียบการส่งออกของไทยแล้ว สิ่งสำคัญที่ผู้ประกอบการไทยจำเป็นต้องดำเนินการ คือ การยื่นขอบัตรที่ใช้ประกอบในการส่งสินค้าไปต่างประเทศกับกระทรวงพาณิชย์ และลงทะเบียนเป็นผู้ส่งออกหรือผู้ออกของกับกรมศุลกากรไทย สิ่งที่ต้องเตรียม ประกอบด้วย
1. บัตรประจำตัวผู้ส่งออกและนำเข้าสินค้า
หากต้องการจะทำธุรกิจส่งออกจำเป็นจะต้องมีบัตรใบนี้ เนื่องจากเป็นสิ่งสำคัญที่แสดงสถานะการเป็น ผู้ส่งออก ซึ่งต้องใช้สำหรับติดต่อกับกรมการค้าต่างประเทศ เพื่อดำเนินการต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการส่งออก เช่น การขอใบรับรองแหล่งกำเนิดสินค้า การขออนุมัติเป็นผู้ส่งออกสินค้าที่มีมาตรฐานและมาตรการส่งออก เป็นต้น โดยสามารถติดต่อสอบถามเกี่ยวกับการทำบัตรได้ที่สำนักบริการการค้าต่างประเทศ โทรศัพท์ 02-5474754 หรือสายด่วนกรมการค้าต่างประเทศ 1385 ต่อ 4101, 4161 หรือศึกษารายละเอียดการจัดเตรียมเอกสารเบื้องต้นด้วยตนเอง และดาวน์โหลดแบบฟอร์มยื่นคำขอออนไลน์ได้ที่เว็บไซต์กรมการค้าต่างประเทศ http://www.dft.go.th/LinkClick.aspx?fileticket=WFwcHdPpdu0=&tabid=101
2. การลงทะเบียนเป็นผู้ส่งออกหรือผู้ออกของกับกรมศุลกากรไทย
เดิมทีผู้ที่ทำธุรกิจส่งออกจะต้องทำบัตรฐานข้อมูลประจำตัวกับกรมศุลกากรไทย เพื่อใช้แสดงสำหรับดำเนินการผ่านพิธีการศุลกากร แต่ปัจจุบันกรมศุลกากรได้เปิดให้บริการพิธีการศุลกากรการส่งออกระบบไร้เอกสาร (paperless) ผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต และได้ยกเลิกใช้บัตร Smart Card ดังกล่าวแล้ว ซึ่งผู้ที่จะทำธุรกิจส่งออกจำเป็นต้องลงทะเบียนกับกรมศุลกากรก่อนจึงจะสามารถใช้บริการดังกล่าวได้ โดยสามารถศึกษาวิธีการลงทะเบียนได้ที่เว็บไซต์กรมศุลกากร http://www.customs.go.th เมนูหลัก “ผู้ประกอบการ” เมนูย่อย “การลงทะเบียนเป็นผู้นำเข้า – ส่งออก / การขออนุญาตเป็นตัวแทนออกของ” หรือติดต่อขอข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนศุลกากร หมายเลข 1164
นอกจากผู้ส่งออกสินค้าไทยไปต่างประเทศจะศึกษาข้อมูลหรือขอคำปรึกษาเกี่ยวกับการส่งออกจากหน่วยงานต่างๆ ของไทยแล้ว ยังอาจพิจารณาสมัครเป็นสมาชิกของหน่วยงานนั้น ๆ เพื่อรับข้อมูลข่าวสารที่เป็นประโยชน์อื่น ๆ ด้วย เช่น การสมัครสมาชิกรายชื่อผู้ส่งออกสินค้าไทย (Exporter List E.L.) กับกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ซึ่งสมาชิกสามารถได้รับการสนับสนุนด้านบริการต่าง ๆ ของกรมฯ อาทิ การรับข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับกฎระเบียบที่อัพเดทใหม่ ข่าวสารการเข้าร่วมกิจกรรมส่งเสริมการส่งออกต่าง ๆ เป็นต้น โดยกรมฯ ได้จะจัดแบ่งประเภทของสมาชิกผู้ส่งออกตามประสบการณ์ด้านการส่งออกเป็น 4 กลุ่มประเภทใหญ่ ได้แก่
1) สมาชิกที่มีประสบการณ์การส่งออกแล้ว
2) สมาชิกที่ยังไม่มีประสบการณ์ในการส่งออก
3) สมาชิกประภทกลุ่มผลิตภัณฑ์ชุมชนและท้องถิ่น (OTOP)
4) สมาชิกประเภทกลุ่มธุรกิจบริการ
ผู้ที่สนใจสามารถศึกษารายละเอียดการสมัครสมาชิกได้ที่ http://www.ditp.go.th/Exporter/Intro.htm นอกจากนี้ ผู้ส่งออกไทยยังสามารถพิจารณาเข้าร่วมเป็นสมาชิกของสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สภา ผู้ส่งออกสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย หรือสมาคมการค้าที่สำคัญของไทยตามประเภทสินค้าที่ต้องการส่งออก อาทิ สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย สมาคมยางพาราไทย สมาคมอาหารแช่แข็งไทย เป็นต้น
กลุ่มสินค้าอาหารที่ต้องขอขึ้นทะเบียนผู้ผลิตสินค้าอาหารเพื่อส่งออกไปจีน ผ่านหน่วยงานรับผิดชอบของประเทศไทย https://food.fda.moph.go.th/media.php?id=513950362982555648&name=China248_Link1.pdf

ที่ กลุ่มสินค้า หน่วยงานรับผิดชอบ
1 เนื้อสัตว์และผลิตภัณฑ์จากเนื้อสัตว์ (meat and meat products) กรมปศุสัตว์
2 ผลิตภัณฑ์ไส้บรรจุไส้กรอก (sausage casing) กรมปศุสัตว์
3 ผลิตภัณฑ์สัตว์น้ำ (aquatic products) ไม่ครอบคลุมถึงสัตว์น้ำมีชีวิต (living aquatic animals) กรมประมง
4 ผลิตภัณฑ์นม (dairy products) กรมปศุสัตว์
5 รังนกและผลิตภัณฑ์จากรังนก (bird nests and bird nest products) กรมปศุสัตว์
6 ผลิตภัณฑ์จากผึ้ง (bee products) กรมปศุสัตว์
7 ไข่และผลิตภัณฑ์จากไข่ (eggs and egg products) กรมปศุสัตว์
8 น้ำมันและไขมันสำหรับการบริโภค (edible oils and fats) กรมวิชาการเกษตร
9 ผลิตภัณฑ์จากข้าวสาลีสำเร็จรูป (stuff pastry products) ประสานงานกับหน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่ง โดยพิจารณาจากองค์ประกอบหลักของสินค้า - กรมปศุสัตว์ (หากมีเนื้อสัตว์เป็นองค์ประกอบ) - กรมประมง (หากมีสัตว์น้ำเป็นองค์ประกอบหลักของไส้)
10 เมล็ดธัญพืชสำหรับการบริโภค (edible grains) กรมวิชาการเกษตร
11 ผลิตภัณฑ์เมล็ดธัญพืชบดและมอลต์เพื่อการอุตสาหกรรม (milled grain industry products and malt) กรมวิชาการเกษตร
12 ผักสดและผักอบแห้ง (fresh and dehydrated vegetables) และถั่วอบแห้ง (dried beans) กรมวิชาการเกษตร
13 เครื่องปรุงรส (condiments/seasoning) กรมวิชาการเกษตร
14 ถั่วเปลือกแข็งและเมล็ดพืช (nuts and seeds) กรมวิชาการเกษตร
15 ผลไม้แห้ง (dried fruits) กรมวิชาการเกษตร
16 กาแฟและเมล็ดโกโก้ที่ยังไม่ผ่านการคั่ว (unroasted coffee beans and cocoa beans) กรมวิชาการเกษตร
17 อาหารสำหรับวัตถุประสงค์พิเศษ (food for special dietary purposes) สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา
18 อาหารฟังก์ชั่น (Functional food) สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา

ที่มา: กองอาหาร สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา

https://food.fda.moph.go.th/press-release/china-248