การส่งออกทุเรียน

เผยแพร่เมื่อ Oct 27, 2024 | จำนวน 35 ครั้ง


ปัจจุบันผลไม้ของไทยที่จีนอนุญาตให้นำเข้าได้มี 23 ชนิด ได้แก่ ทุเรียน ลำไย มังคุด สับปะรด ละมุด กล้วย เสาวรส ลิ้นจี่ มะพร้าว น้อยหน่า มะขาม มะละกอ มะเฟือง มะม่วง ฝรั่ง เงาะ ชมพู่ ขนุน สละ ลองกอง ส้มเขียวหวาน ส้ม และส้มโอ

ผลไม้ 5 ชนิดที่ต้องปฏิบัติตามพิธีสารไทย-จีน ได้แก่ ลำไย ลิ้นจี่ ทุเรียน มังคุด และมะม่วง ต้องขึ้นทะเบียนสวน GAP และทะเบียนโรงคัดบรรจุ GMP กับกรมวิชาการเกษตร สำหรับลำไยและทุเรียน ต้องจดทะเบียนเป็นผู้ส่งออกกับกรมวิชาการเกษตร โดยภาชนะหรือกล่องบรรจุ ต้องระบุข้อความที่กำหนดดังนี้:

  • ชื่อบริษัทผู้ส่งออก (Name of exporting company)
  • ชนิดผลไม้ (Fruit Type)
  • หมายเลขโรงหีบห่อจดทะเบียน (ทะเบียนโรงคัดบรรจุ)
  • วันที่บรรจุ (Packing date)
  • ระบุข้อความเป็นภาษาอังกฤษ หรือภาษาจีน ว่า Export to the People’s Republic of China


และต้องปราศจากแมลงวันผลไม้ ไม่มีกิ่ง ก้าน ใบและดิน และต้องไม่พบสาร Methamidophos ในผลไม้ที่ส่งออก ส่วนลำไยที่ส่งออกมีข้อกำหนดในการใช้สารซัลเฟอร์ไดออกไซด์ (SO2) ต้องไม่เกิน 50 PPM. ที่เนื้อลำไย ลิ้นจี่ต้องมีก้านยาวไม่เกิน 15 ซม. ภาชนะบรรจุต้องใหม่ สะอาด และระบุข้อความตามที่กำหนด ผลไม้ไทยที่ส่งออกไปจีน ไม่ต้องเสียภาษีนำเข้า โดยต้องมีหนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้า (Form E) ไปแสดงต่อศุลกากรประเทศจีน สามารถขอ Form E ได้ที่สำนักบริการการค้าต่างประเทศ กรมการค้าต่างระเทศ อย่างไรก็ตาม จีนเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มร้อยละ 13 และหากส่งผ่านมณฑลใดจะต้องศึกษากฎระเบียบของมณฑลนั้นด้วย


กรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ https://www.dft.go.th/แสดงเนื้อหา/ArticleId/7313


ทุเรียนสด | 50396

พิกัดศุลกากรและรหัสสถิติ ประกาศฯ/ระเบียบฯ เหตุผล หน่วยงานที่รับผิดชอบ ผู้มีอำนาจอนุญาต
ตามชนิดประเภทสินค้า - ประกาศกระทรวงพาณิชย์ว่าด้วยการส่งสินค้าออกไปนอกราชอาณาจักร (ฉบับที่ 91) พ.ศ. 2542 ลงวันที่ 9 กรกฎาคม 2542 - ประกาศกรมวิชาการเกษตร เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขการจดทะเบียนเป็นส่งออกผลทุเรียนสด พ.ศ. 2563 เพื่อให้การส่งผลทุเรียนสดออกไปต่างประเทศเป็นไปด้วยความเรียบร้อยและเป็นผลดีต่อเศรษฐกิจของประเทศโดยส่วนรวม -กรมการค้าต่างประเทศ (กองบริหารการค้าสินค้าทั่วไป) -กรมวิชาการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กรมศุลกากรตรวจปล่อยสินค้าตามบัญชีรายชื่อผู้ส่งออกที่กรมวิชาการเกษตรแจ้งให้กรมศุลกากรทราบ


ขอบเขตการควบคุม
ผลทุเรียนสด
ระเบียบและหลักเกณฑ์
1. ผู้ส่งทุเรียนสดออกไปนอกราชอาณาจักรจะต้องเป็นผู้ที่ได้จดทะเบียนเป็นผู้ส่งทุเรียนสดออกไปนอกราชอาณาจักรไว้ต่อกรมวิชาการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ตามหลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการที่กรมวิชาการเกษตรกำหนด และกรมวิชาการเกษตรแจ้งบัญชีรายชื่อและหมายเลขทะเบียนผู้ส่งออกทุเรียนสดให้กรมศุลกากรทราบเพื่อประกอบการส่งออก

2. ผู้ส่งออกจะต้องติดป้าย หรือฉลาก หรือประทับข้อความ โดยระบุข้อความต่อไปนี้เป็นภาษาอังกฤษให้ชัดเจนที่ภาชนะบรรจุ
(1) ชื่อและหมายเลขทะเบียนผู้ส่งออก
(2) ชื่อพืชและพันธุ์
(3) ชั้นและน้ำหนักของสินค้า
(4) ประเทศผู้ผลิต
(5) กำหนดเวลาอายุการรับประทาน
3. ผู้ส่งออกรายงานการส่งทุเรียนสดออกไปนอกราชอาณาจักรต่อกรมวิชาการเกษตร ตามหลักเกณฑ์ที่กรมวิชาการเกษตรกำหนด
4. มิให้ใช้บังคับแก่กรณีนำติดตัวออกไปเพื่อใช้เฉพาะตัว หรือการส่งออกโดยมิใช่การค้า หรือเพื่อเป็นตัวอย่างในปริมาณที่สมควร
สรุปขั้นตอนการส่งออกทุเรียนไปจีน

 

(ใส่ภาพประกอบ)

 

 

ขั้นตอนการส่งออกทุเรียนสด

ลำดับ ขั้นตอน รายละเอียด หน่วยงานผู้รับผิดชอบ
1 จดทะเบียนนิติบุคคล ผู้ประกอบการจะได้รับการยกเว้นและสิทธิต่าง ๆ ในการขอคืนภาษีซึ่งผู้ประกอบการจะต้องมีสถานะเป็นนิติบุคคลเท่านั้น กรมพัฒนาธุรกิจการค้า
2 จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม - กรมสรรพากร
3 ทำบัตรประจำตัวผู้ส่งออก-นำเข้าสินค้า ในการติดต่อกรมการค้าต่างประเทศ เพื่อขอใบอนุญาตและหนังสือรับรองการส่งออก-นำเข้าสินค้า ผู้ประกอบการส่งออก-นำเข้า จะต้องปฏิบัติตามระเบียบ ประกาศที่กรมการค้าต่างประเทศและหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกำหนดไว้ให้ครบถ้วน เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวก ลดจำนวนเอกสาร และลดขั้นตอน ในการติดต่อราชการ กรมการค้าต่างประเทศจึงกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการให้ผู้ประกอบการลงทะเบียนผู้ประกอบการ (Registration Database) เพื่อขอใช้งาน User Name กลางนี้ร่วมกับบริการ และ/หรือระบบงานต่างๆ ของกรมการค้าต่างประเทศ โดยมีคำแนะนำในการเตรียมเอกสารและปฏิบัติตามขั้นตอน ดังนี้
1. ผู้ประกอบการส่งออก-นำเข้า และผู้รับมอบอำนาจ ต้องลงทะเบียนผู้ประกอบการทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ เว็บไซต์กรมการค้าต่างประเทศ reg-users.dft.go.th ส่งข้อมูลไปยังระบบฯ ของกรมการค้าต่างประเทศ
2. ผู้ประกอบการส่งออก-นำเข้า/ผู้รับมอบอำนาจ กรอกข้อมูลคำร้องขอมีบัตรประจำตัวผู้ส่งออก-นำเข้า (แบบ บก.1) และ/หรือบัตรประจำตัวผู้รับมอบอำนาจ (แบบ บก.1/1) ในระบบคอมพิวเตอร์ของเว็บไซต์กรมการค้าต่างประเทศ (reg-users.dft.go.th) จากนั้นบันทึกส่งข้อมูลไปยังระบบฯ กรมการค้าต่างประเทศ
3. ผู้ประกอบการส่งออก-นำเข้า และ/หรือผู้รับมอบอำนาจต้องยื่นคำร้องขอมีบัตรประจำตัวฯ ด้วยตนเอง ลงลายมือชื่อและ/หรือตราประทับของบริษัท/ห้าง/ร้าน ในคำร้องขอมีบัตรประจำตัวฯ ต่อหน้าเจ้าหน้าที่งานทะเบียน พร้อมแสดงเอกสารประกอบคำขอที่กรมการค้าต่างประเทศกำหนด
4. กรณีผู้ประกอบการส่งออก-นำเข้ามอบอำนาจให้บุคคลอื่นยื่นคำร้องขอมีบัตรประจำตัว ผู้ส่งออก-นำเข้าและ/หรือบัตรประจำตัวผู้รับมอบอำนาจ ให้ทำหนังสือมอบอำนาจให้ยื่นคำร้องขอมีบัตรประจำตัวฯ (แบบ บก.2) และหนังสือรับรองลายมือชื่อผู้มอบอำนาจ (แบบ บก.3) รับรองโดยทนายความ ที่เป็นสมาชิกสภาทนายความ/สมาชิกสามัญ/วิสามัญแห่งเนติบัณฑิตยสภา ผ่านทางระบบคอมพิวเตอร์ของเว็บไซต์กรมการค้าต่างประเทศ (reg-users.dft.go.th) ใช้สำหรับยื่นฟอร์ม ACFTA (ข้อตกลงการค้าเสรีอาเซียน-จีน)
กรมการค้าต่างประเทศ
4 จดทะเบียนเป็นผู้ส่งออกสินค้าเกษตรไปนอกราชอาณาจักร 1. ส่งออกทุเรียนสดออกไปนอกราชอาณาจักร ปฏิบัติตาม ประกาศกรมวิชาการเกษตร เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขการจดทะเบียนเป็นผู้ส่งผลทุเรียนสดออกไปนอกราชอาณาจักร (ตามประกาศกรมวิชาการเกษตร เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขการจดทะเบียนเป็นผู้ส่งผลทุเรียนสดออกไปนอกราชอาณาจักร พ.ศ. 2556 ลงวันที่ 5 มิถุนายน 2556)
2.
หนังสือสําคัญแสดงการจดทะเบียนเป็นผู้ส่งผลทุเรียนสดออกไปนอกราชอาณาจักร มีอายุ 2 ปี นับแต่วันออกหนังสือสําคัญการจดทะเบียน ตัวอย่างหมายเลขทะเบียน DU-1-XX-XXX
กรมวิชาการเกษตร
5 ขอใบรับรองปลอดศัตรูพืช (Phytosanitary certificate : PC) ขั้นตอนตามเอกสาร “การออกใบรับรองสุขอนามัยสำหรับพืชควบคุมเฉพาะ” กรมวิชาการเกษตร
6 ขอหนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้า หนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าทั่วไป Certificate of Origin (C/O) เป็นหนังสือรับรองที่ออกให้ผู้ส่งออกเพื่อแสดงว่าสินค้ามีถิ่นกำเนิดในประเทศใด และผลิตได้ถูกต้องตามกฎว่าด้วยถิ่นกำเนิดสินค้า ซึ่งใบ C/O จะมีอยู่ 2 ประเภทด้วยกันดังนี้
1. หนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าทั่วไป คือเอกสารที่นำไปใช้รับรองถิ่นกำเนิดสินค้า แต่ไม่สามารถนำไปขอยกเว้นหรือลดหย่อนภาษีอากรขาเข้าได้ เรียกว่า Ordinary Certificate of Origin
2. หนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าแบบพิเศษ ที่นำไปใช้เพื่อขอรับสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากร (ขอยกเว้น หรือลดหย่อนภาษีอากรขาเข้า) เรียกว่า Preferential Certificate of Origin แล้วใบ C/O 2 ประเภทนี้แตกต่างกันอย่างไร?
- Ordinary Certificate of Origin ขอเรียกสั้นๆว่าแบบทั่วไป แบบทั่วไปนี้คือเอกสารที่ใช้เพื่อยืนยันกับผู้ซื้อว่า สินค้าที่ส่งออกไปนั้นประกอบด้วยวัตถุดิบภายในประเทศ มีการผลิต หรือผ่านขั้นตอนกระบวนการผลิตภายในประเทศ
- Preferential Certificate of Origin ศัพท์นำเข้าส่งออกเราเรียกเอกสารสิ่งนี้ว่า "ฟอร์ม" ตัวอย่างเช่น FORM E (ฟอร์มอี) ซึ่งเป็น C/O ที่รับรองว่าสินค้าถูกผลิตในประเทศจีน และ FORM E นี้ ที่ใช้มาขอยกเว้น/ลดหย่อนภาษีอากรขาเข้าจากกรมศุลกากร C/O ที่ใช้ยกเว้นหรือลดหย่อนภาษีได้จึงเป็นชนิดพิเศษ หนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้า การใช้สิทธิพิเศษทางการค้าภายใต้เขตการค้าเสรีต่างๆ เป็นหนังสือรับรองฯ ที่ออกให้แก่ผู้ส่งออกเพื่อใช้ในการขอรับสิทธิพิเศษตามความตกลงว่าด้วยเขตการค้าเสรีต่างๆ ได้แก่
- ความตกลงว่าด้วยเขตการค้าเสรีอาเซียน-จีน ใช้ Form E
กรมการค้าต่างประเทศ
7 บริการค้นหาข้อมูลอัตราภาษี - กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ
8 บริการช่วยเหลือและสนับสนุนการทำธุรกิจส่งออกสินค้า - กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ
9 ตรวจสอบชดเชยค่าภาษีอากรสินค้าส่งออกที่ผลิตในราชอาณาจักร - กรมศุลกากร
10 ขั้นตอนการผ่านพิธีการศุลกากรขาออก เมื่อสินค้าได้รับการรับรองการส่งออก และได้รับใบอนุญาตต่างๆเพื่อใช้ในการนำเข้าแล้วผู้ส่งออกต้องเตรียมเอกสารสำคัญต่างๆเช่นใบขนสินค้าขาออก Commercial Invoice และ Packing listเป็นต้น เพื่อใช้ในขั้นตอนการผ่านพิธีการศุลกากรในประเทศไทยและในประเทศนำเข้าด้วย กรมศุลกากร

https://www.moc.go.th/th/bizinfo/index/indexitem/itemID/253/itemCID/1789 https://www.togetherfreight.com/content/11314/export-durian


หมายเหตุ: เนื่องจากทุเรียนเป็นผลไม้ที่ 3 ารถคงความสดอยู่ได้ไม่เกิน 20 วันและคลายความร้อนสูงในการขนส่งทุเรียนจะถูกจัดเก็บในตู้สินค้าห้องเย็นที่มีอุณหภูมิ 13 ถึง 15 องศาเซลเซียส และมีการเปิดช่องระบายอากาศเพื่อระบายความร้อน ดังนั้นผู้ส่งออกจำเป็นต้องเลือกรูปแบบในการขนส่งทุเรียนที่เหมาะสมเพื่อให้คงความสดใหม่ของผลไม้โดยคำนึงถึงเรื่องระยะเวลาในการขนส่งเป็นสำคัญ

 

(ภาพประกอบ)